อยากติดตาม top marketing guru บน twitter
อยากติดตาม top marketing guru บน twitter เพื่อลับไอเดียทางการตลาด ลองดูที่นี่ครับ http://www.smmmagazine.com/exclusives/top-marketing-professors-on-twitter/
เพลง iPhone4 ปัญหาของเครื่องรับสัญญาณ
ดูฝรั่งมันทำครับ แหมๆๆๆ .. http://techcrunch.com/2010/07/16/iphone-4-antenna-song/
Focus ธุรกิจจากฟุตบอลโลก
มาติดตามผลประเมินธุรกิจจาก World Cup
// FIFA มีรายได้ $3.4 billion = หนึ่งแสนล้านบาท! จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอด และโฆษณาต่างๆ
// FIFA คงลุ้นสุดตัวให้ทีมชาติอเมริกันเข้ารอบสุดท้าย และลึกๆหน่อย เพราะต้องการปลุกปั้นเกมส์ฟุตบอลให้เข้าสู่อเมริกา สมหวังครับ ตัวเลขของการเข้าชมรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับกาน่า 19.4 ล้านคน สูงสุดในประวัติศาสตร์!
// Nike, Adidas และ VISA มีการสร้างมูลค่าเพิ่มมากมายจากฟุตบอลโลกครั้งนี้
// Twitter กันถล่มทลายช่วงการแข่งขันถึง 3,000 twits/วินาที มากกว่าปกติ 3 เท่าตัว
// อัฟริกาใต้ ใช้งบประมาณถึง $ 5.6 billion และเป็นการลงทุนสูงที่สูงในประวัติศาสาตร์การแข่งขันของฟุตบอลโลก โดยประธานาธิบดียังเชื่อว่า คุ้มค่าต่อการเป้นเจ้าภาพ แต่ผลสำรวจของ SMEs ภายในประเทศยังผิดหวังกับผลตอบรับทางธุรกิจที่ได้มา!
ประเทศไทย ยังอยากเป็นเจ้าภาพมั้ยครับ ???
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fastcompany.com/1669346/world-cup-winners-and-losers-by-the-numbers
ไอเดียการตลาดโดนๆ ของรถยนต์
Experience คือประสบบการณ์ที่นักการตลาดพยายามสร้างให้กับลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการขั้นสูงสุดในการซื้อสินค้า และบริการในยุคนี้ หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่าสินค้าอย่างรถยนต์จะสามารถคิดไอเดียทางการตลาดเพื่อตอบสนองประสบการณ์ลูกค้าได้อย่างไร
ล่าสุด Corvette รถสปอร์ตหรูของอเมริกาให้ลูกค้าที่จองซื้อรถ สามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อเข้าไปประกอบเครื่องยนต์ของรถตัวเองในโรงงานที่มิชิแกน BMW ให้ลูกค้าไปชมการประกอบตัวถังรถตัวเ้องขั้นสุดท้ายที่โรงงานในเยอรมัน และเป็นผู้ร่วมทดสอบกับมืออาชีพในสนามทดสอบรถ หากมาคิดถึงเรื่องการเรียนคอร์สอาหารไทย คงไม่ต่างกันครับสำหรับโรงเรียนที่ให้ลูกค้าไปเก็บสมุนไพรในฟาร์ม หรือจ่ายตลาดเอง แล้วนำเตรียมอาหารเอง
Branding คือการทำให้สินค้า และบริการเข้าถึงประสบการณ์ส่วนตัวของลูกค้าได้มากที่สุด เราจึงเห็นไอเดียการสื่อสารทางการตลาดโดยคิดออกนอกกรอบเพื่อให้ลูกค้าเกิดการยอมรับได้เป็นปัจเจกบุคคลมีความสำคัญมากขึ้น
How trade show work?… part3
หลังจากการออกบูททุกครั้ง เป็นที่น่าเสียดายว่า โดยส่วยใหญ่ 80% ของการออกบูทไม่ได้ทำการ follow up วิธีการคือ รีบตั้ง lead manager เพื่อมารับผิดชอบโดยตรงทำการติดตามลูกค้า โดยมีการตั้งทีมงาน และกำหนดส่งมอบรายงานภายในระยะเวลา 10 วันหลังจากออกงาน ต้องมีการประชุมประเมินความสำเร็จของงานด้วยครับ เพื่อหาข้อดี ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในการแก้ไขปรับปรุงครั้งต่อไป
Tips อื่นๆ ที่อยากเพิ่มเติม
1) อย่ากินอาหารในบูท ระวังเรื่องกลิ่นปาก
2) ระวังการใช้โทรศัพท์ส่วนตัว
3) เรื่องภาษากาย ไม่ควรทำท่ากอดอกไว้
4) สวมใส่ชุดที่เหมาะสมกับงาน และรองเท้าที่สบาย ควรพักบ้าง 10 นาที/ชม.
5) ระวังเรื่องการพูดคุยเล่นกับบูทด้านข้าง
6) อย่านั่งตลอดเวลา และให้เดินเข้าหากลุ่มเป้าหมาย
7) เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ เช่นปากกา นามบัตร
หากทำได้ตามขั้นตอนทั้ง 3 การแสดงสินค้าและบริการจะออกมาเป็นที่น่าพอใจตามเป้าหมาย และคุ้มต่อการลงทุน อีกทั้งยังเพิ่มกำลังใจการทำงานแก่ทีมงาน และเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพิ่มความรับรู้ของ brand สินค้า ที่สำคัญคือการได้เข้าถึงข้อมูลจากตลาดโดยตรงด้วยครับ
How trade show work?… part 2
หลังจาก การวางแผน มาดูเรื่องการเตรียมทีมงานออกบูทกันครับ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก! อย่าลืมนะครับ การแสดงสินค้ามีการแข่งขันกับเวลา และคู่แข่งที่มีอยู่มากมาย ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ต้องทำเป็นโครงการพิเศษ โดยมีการเน้นในเรื่องต่างๆ ดังนี้ครับ;
- ตั้ง Show Captain ขึ้นมารับผิดชอบเป็นผู้จัดการแสดงในครั้งนี้ โดยทำหน้าที่ดูแลลูกทีมเรื่องการแบ่งหน้าที่ การเข้าออก การประสานงานต่างๆด้วย
- ปกติการออกบูท จะใช้พลังงานมาก และเลิกดึก ดังนั้น Captain ต้องทำหน้าที่ในการประชุม pre-show ในเช้าวันถัดไปก่อนงานเริ่ม เพื่อนำปัญหา และข้อดี ของประสบการณ์มาแบ่งปัน รวมทั้งการให้กำลังใจลูกทีมก่อนการเริ่มของแต่ละวัน
4 เรื่องที่ทีมงานบูท ควรฝึกและใส่ใจ
1 ) Engagement / ทำอย่างไรเพื่อเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย และการสร้างความประทับใจเพื่อให้ลูกค้าสนใจ หยุดพูดคุยกับเรา โดยไม่เสียสมาธิในการมองหาที่อื่นๆ อย่าใช้คำถามปิดในการเข้าหาลูกค้า เช่นการตอบด้วย ใช่ หรือไม่ใช่! ต้องออกแบบคำถาม และซักซ้อมให้ลูกทีมในการเข้าถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิผล อีกอย่างคือ ต้องเดินเข้าหาลูกค้า อย่ารอให้ลูกค้าเข้ามาในบูท
2) Qualification / ขั้นตอนนี้คือการคัดกรองกลุ่มเป้าหมายของสินค้า และบริการที่เราต้องการครับ ในการออกงาน มีผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาในช่วงเวลาที่จำกัด เราคงไม่อยากเสียพลังงานและเวลากับคนที่ไม่ใช่เป้าหมาย โดยมองเห็นกลุ่มที่ใช่เดินผ่านไปมา หรือไม่สามารถเข้าหาได้
3) Presentation / เตรียมข้อมูล สื่อที่เหมาะสมเพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายสนใจสินค้า และบริการของเราให้เหมาะสม เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการสร้างความจดจำ และถึงขั้นทำให้ เกิดการซื้อขายสินค้าในบูททีเดียว ควรใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีในการทำ presentation เนื่องจากทั้งลูกค้าและเราต่างมีเวลาจำกัดในการมางาน
4) Closing / ปิดการขาย หรือการจบขั้นตอนด้วยการมีข้อมูลที่จำเป็นเพื่อทำการ follow up กับกลุ่มเป้าหมาย โดยอาจต้องส่งมอบงานให้แผนกอื่นๆ ต่อไป
จบ part2 ครับ ตอนสุดท้ายจะมาเขียนเรื่องการ Follow up และ Tips อื่นๆ